ไม่ว่าคุณจะทำงานในสำนักงาน โรงงาน ร้านอาหาร หรือสภาพแวดล้อมอื่นๆ การรักษาพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัยและถูกสุขลักษณะเป็นสิ่งสำคัญ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับหลายๆ คน นี่คือสิ่งที่คนทำงานควรทราบเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน
วัตถุประสงค์ของการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน
มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้พนักงานทุกคนมีสุขภาพที่ดีก่อนเข้าทำงาน มาตรการนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของโรค รวมถึง COVID-19 และไวรัสหรือเชื้อโรคที่ติดต่อได้อื่นๆ
การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานมักจะตรวจอะไรบ้าง
1.ซักประวัติและตรวจสุขภาพทั่วไป (Physical exams)
การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน แพทย์จะมีการซักประวัติเพื่อคัดกรองข้อมูลเบื้องต้น ใช้ประกอบคำวินิจฉัยร่วมกับการตรวจอื่น ๆ เช่น ตรวจวัดสัญญาณชีพ ดัชนีมวลกาย ความดันโลหิต การทำงานของระบบประสาท ตรวจเอกซ์เรย์ปอด ตรวจโรคระบบทางเดินหายใจ ช่องท้อง เพื่อวินิฉัยโรคความดันโลหิตสูง หัวใจ โรคอ้วน เป็นต้น
2.การตรวจวัดทางสายตา
การตรวจวัดทางสายตาจะตรวจด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อหาปัญหาทางสายตาเบื้องต้น โดยดูที่การตอบสนองของดวงตา ค่าสายตา ตรวจตาบอดสี และสีของตาขาว,ตาดำ
3.ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
เป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัยความผิดปกติของเม็ดเลือด ระดับคอเลสเตอรอล ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ค่าไต ค่าไทรอยด์ฮอร์โมน โดยต้องตรวจผ่านห้องปฏิบัติการเพื่อผลการตรวจที่มีความแม่นยำ
4.ตรวจปัสสาวะและตรวจสารเสพติด
ในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานเพื่อหาสารเสพติด มักจะตรวจจากปัสสาวะ โดยหาสารเมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) และแอมเฟตามีน (Amphetamine) อีกทั้งยังสามารถตรวจโรคอื่น ๆ จากปัสสาวะ เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ โรคไต และโรคเบาหวาน
5.ตรวจหาเชื้อไวรัส โรคติดต่อ
ตรวจหาโรคติดต่อที่มีการติดได้จากการใช้ของร่วมกัน หรือติดต่อทางสารคัดหลั่งทางเพศสัมพันธ์ ค่อนข้างมีความสำคัญ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนเข้าทำงาน ทั้งต่อองค์กรและเพื่อนร่วมงาน
สรุป
การตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการตรวจอาการ ร่างกาย และการตรวจหาเชื้อไวรัส การตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงานเป็นส่วนสำคัญในการรับรองสุขภาพและความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน การปฏิบัตินี้ต้องการความซื่อสัตย์และความร่วมมือจากพนักงาน